การเปรียบเทียบเครื่องตัดหญ้า 2 จังหวะและเครื่องตัดหญ้า 4 จังหวะมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันดังนี้:
เครื่องตัดหญ้า 2 จังหวะ
ข้อดี :
- เครื่องยนต์รอบสูงกว่าเครื่องยนต์ 4 จังหวะ ถึง 2 เท่า ตัวทำให้รองรับการลุยงานหนักได้ดีกว่า ตัดได้งานเยอะกว่าในระยะเวลาเท่ากัน
- ไม่ต้องเร่งรอบสูงก็สามารถตัดหญ้าได้
- โครงสร้างของเครื่องไม่ซับซ้อน การซ่อม / แก้ไขปัญหาง่ายกว่า
- ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่เคลือ่นไหวน้อยชิ้นกว่า การสึกหรอของอะไหล่ระยะยาวน้อยชิ้นกว่า
- ไม่มีระบบวาวล์ ระบบเครื่องไม่ซับซ้อน ระยะยาวหากเครื่องหลวมการซ่อมให้กลับมาทำงานได้เต็มประสิทธิภาพง่ายกว่า
- ต้องการการดูแลรักษาน้อยกว่า
- คาร์บูเรเตอร์ระบบไดอะแฟรมที่คุณภาพดี จะช่วยให้ประหยัดน้ำมันกว่า เครื่องทำงานได้คงที่ในเวลาเครื่องเอียง
- ไม่ต้องคอยเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง
ข้อเสีย
- การทำงานของเครื่องค่อนข้างเสียงดัง
- มีการปล่อยควันเไอเสียเยอะกว่าเครื่องยนต์ 4 จังหวะ
- ต้องมีการผสมน้ำมันเชื้อเพลิงก่อนใช้งาน
เครื่องตัดหญ้า 4 จังหวะ
ข้อดี
- เสียงเครื่องยนต์ทำงานเงียบกว่า
- การปล่อยไอเสียน้อยกว่า
- ไม่ต้องผสมน้ำมันเชื้อเพลิงก่อนการใช้งาน
ข้อเสีย
- การออกแบบที่ซับซ้อน ชิ้นส่วนอะไหล่เยอะมากขึ้น เครื่องยนต์เหล่านี้จึงมีน้ำหนักกว่ามาก
- ระบบวาล์ว, การออกแบบที่ซับซ้อน, ยากต่อการซ่อม / แก้ปัญหา
- กำลังเครื่องน้อยกว่าเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ 2 จังหวะขนาดเท่ากัน
- ยิง 4 จังหวะ 1 ครั้ง ต่อรอบทำให้รอบเครื่องช้า เร่งรอบช้ากว่า 2 จังหวะ ทำให้ใช้งานหนักๆ ที่ต้องการรอบสูงๆ ไม่ได้
- อะไหล่เคลื่อนไหวเยอะกว่า ชิ้นส่วนที่มีการสึกหรอเยอะกว่าเมื่อผ่านการใช้งานระยะหนึ่ง ซ่อมแพงกว่า
- ต้องตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื่องทุกครั้งก่อนใช้งาน
- ต้องคอยเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะ หากลืมเปลี่ยนจะทำให้เคลื่อนเกิดการสึกหรอทั้งระบบ
- ต้องการการดูแลรักษาเยอะกว่า
ข้อดีและข้อเสียของแต่ละชนิดขึ้นอยู่กับการใช้งานและความต้องการของผู้ใช้งานแต่ละคนด้วย ควรพิจารณาความเหมาะสมของเครื่องตัดหญ้ากับงานที่ต้องการทำให้เหมาะสมที่สุด และรักษาดูแลเครื่องตัดหญ้าอย่างเหมาะสมเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการใช้งานในระยะยาว
ขอแนะนำ เครื่องตัดหญ้า Husqvarna รุ่น 321R ,331R และ 541R เป็นเครื่องตัดหญ้าที่ประสิทธิภาพสูงสุด ให้คุณได้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ